หลวงปู่ทวดลิ้นดำ วาจาสิทธิ์ วัดเกาะอภินิหาร ตำบลเปียน อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ดวงจิตพระอริยะสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์ ที่วัดร้าง มีศีลมีภาวนาทำให้เกิดสติปัญญา คนทำความชั่วนั้นก็เพราะไม่มีสติ ไม่มีปัญญา จึงเป็นเหตุให้ไปก่อทุกข์ภัยมาสู่ตนเอง
….มรดกธรรม..พระครูไพบูลย์สิกขการ “หลวงปู่หวาน อภโย” วัดสะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
…แด่….ผู้ศรัทธาในปาฏิหาริย์!!!!บารมีหลวงพ่อทวด ล้นฟ้านอกเหนือเหตุผล!!!!
เรื่องของหลวงพ่อทวดสำหรับผม จึงเป็นเรื่องที่ลึกซึ้งและยิ่งใหญ่เพราะผมเป็นคนใต้แท้ๆเกิดในถิ่นพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายหลวงพ่อทวดรวมถึงสายเขาอ้อที่โยงใยกันอย่างตรงตัว…
พระเทพญาณเมธี หลวงปู่สุระ วัดสวนใหม่ ยะลา เคยกล่าวถึงหลวงพ่อทวดอย่างเคารพเทิดทูนสูงสุดบ่อยครั้ง และมีวัตถุมงคลที่เป็นรูปของหลวงพ่อทวดซึ่งท่านสร้างเอง ให้คนทำบุญหาปัจจัยพัฒนาวัด ท่านเคยบอกกับบิดาของผมและตัวผมเองว่า
“นี่คุณๆรู้ไหมหลวงพ่อทวดน่ะท่านศักดิ์สิทธิ์ รูปท่านศักดิ์สิทธิ์เป็นกายสิทธิ์”
ผมไม่เคยได้ยินครูบาอาจารย์องค์ไหนกล่าวยกย่องอย่างสูงเช่นนี้มาก่อน ท่านยังบอกอีกว่า “พระหลวงพ่อทวดนั้นแม้จะเป็นของปลอม แต่ถ้าคุณนับถือก็ศักดิ์สิทธิ์ทั้งนั้น อันนี้เป็นได้ด้วยบารมีของท่าน”…ของๆของพระ รูปพระทุกรูป รูปหลวงพ่อทวดทุกรูป มีกระแสจิตของท่านอยู่
… “พระเครื่องรูปเหมือนหลวงพ่อทวด” นั้นได้ถือว่าเป็นสุดยอดวัตถุมงคลที่นักสะสมชื่นชอบและแสวงหามาไว้ในครอบครอง เพราะเชื่อมั่นในพุทธคุณด้านนิรันตราย แคล้วคลาดปลอดภัย ที่ประสบพบเจอกันมามากมาย…
หลวงพ่อทวด เป็นคำเรียกขาน พระอริยสงฆ์ผู้มีบุญญาธิการ หาใช่ชื่อเฉพาะพระสงฆ์ รูปหนึ่งรูปใดไม่ แต่เมื่อกล่าวถึงพระสงฆ์รูปหนึ่งรูปใดก็จะมีชื่อเฉพาะหรือฉายาตามมา เช่นหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หลวงพ่อทวดวัดช้างให้ หรือหลวงพ่อทวดวัดพะโคะ เป็นต้น สำหรับตำนานของหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่งสันนิษฐานว่าคือพระสงฆ์รูปเดียวกันกับหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ หรือหลวงพ่อทวดวัดพะโคะนั้น ปัจจุบันมีตำนานเล่าสืบต่อมาหลายกระแส ซึ่งยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าตำนานใดที่ถูกต้องแน่ชัด และเรื่องซึ่งเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปมักเป็นเรื่องในเชิงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์
หลวงพ่อทวดเหยียบทะเลน้ำจืด
คำว่า “พ่อทวด” หรือ “หลวงพ่อทวด” ตาม ปกติชาวใต้จะเรียกพระสงฆ์ที่บำเพ็ญภาวนาจนมีญาณสมาบัติสูง เชียวชาญพระเวทย์วิทยาคม มีทั้งบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์ปฏิหาริย์ ที่มีอายุมากหรือมีการดับขันธ์มาเป็นเวลานานนับ 100 ปี ขึ้นไปว่าและดวงวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์พระคุณเจ้าเหล่านั้นยังคงสถิตย์อยู่ ณ สถานที่ต่าง ๆ อาจจะเป็น สถูป หรือ วัดต่าง ๆ ครั้งเมื่อท่านยังคงดำรงค์ขันธ์อยู่ว่า “พ่อทวด” ฉะนั้นในดินแดนภาคใต้ไม่ได้มีพระสงฆ์ที่ชาวบ้านในท้องถิ่นขนานนามว่า “พ่อทวด” เพียงองค์เดียวแต่กลับมีหลายองค์มาก อาทิ เช่น หลวงปู่ทวดลิ้นดำ วัดเกาะอภินิหาร สะบ้าย้อย สงขลา หรือที่ชาวบ้านเรียกกันทั่วไปว่า ทวดลิ้นดำ ชาวอำเภอสะบ้าย้อยหรือบุคคลทั่วไปจะได้ยินกิตติศัพท์ในทางอภินิหาร และเคารพนับถือกราบไหว้บูชามาจนถึงทุกวันนี้ ท่านเป็นผู้ทรงวิทยาคุณ มีวาจาสิทธิ์ เดิมเป็นเจ้าอาวาสวัดเกาะอภินิหาร ดั้งเดิมท่านเป็นชาวทะเลน้อย จังหวัดพัทลุง
หลวงปู่ทวดลิ้นดำ วาจาสิทธิ์ วัดเกาะอภินิหาร อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ลือลั่นปาฏิหาริย์
“หลวงปู่ทวดลิ้นดำ วาจาสิทธิ์ ” เป็นอดีตเจ้าอาวาส วัดกุหร่า หรือ วัดเกาะอภินิหาร ตำบลเปียน อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เมื่อประมาณเกือบสี่ร้อยปีล่วงมาแล้ว “หลวงปู่ทวดลิ้นดำ วาจาสิทธิ์ ” เป็นพระผู้ทรงบุญญาภินิหาร และวิทยาคมเข้มขลัง ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ผู้มีบุญญาธิการอันยิ่งใหญ่ มีบารมีที่เข้มขลังในพลังจิตญาณสูงส่ง บรรลุบุพเพนิวาสนุสติญาณ และอิทธิวิธีญาณ อย่างแก่กล้าในอากาศกสิณ จนสามารถล่องหนตัวได้อย่างอัศจรรย์ยิ่งนัก อีกทั้งมี เจโตปริยญาณ ท่านสามารถล่วงรู้ถึงวิบากกรรมของแต่ละคน และล่วงรู้วิธีการแก้ไข ผ่อนหนักให้เป็นเบา หรือที่เบาก็บันดาลให้หมดสิ้นไป ปรากฏเป็นที่ลือลั่นโจษจันว่า ผู้คนที่ประสบปัญหาต่างๆ อาทิเช่น เรื่องธุรกิจการค้ามีปัญหา การทำมาหากินฝืดเคือง ค้าขายไม่เจริญรุ่งเรือง ไม่ราบรื่นติดๆ ขัดๆ ตลอดจนบรรดาข้าราชการที่ไม่ประสบความเจริญก้าวหน้า ต่างไปกราบไหว้สักการะขอให้ท่านช่วยเหลือ ณ สถูปที่บรรจุอัฐิที่วัดร้าง วัดกุหร่า(วัดเกาะอภินิหาร) ก็ได้รับผลบันดลให้สำเร็จไปตามๆ กัน นอกจากนี้ กฤตยาคม ในจิตญาณของท่าน ยังแก่กล้าด้วยพุทธาคมอย่างเข้มขลังเอกอุ ยอดเยี่ยมเป็น “หนึ่ง” ไม่เป็นสองรองใคร ซึ่ง สถูปบรรจุอัฐิของ “หลวงปู่ทวดลิ้นดำ วาจาสิทธิ์” ได้ประดิษฐานอยู่ ณ วัดเกาะอภินิหาร ตำบลเปียน อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ให้ผู้เคารพศัรทธาที่เดินทางไป ได้กราบไหว้สักการบูชา ลักษณะของสถูปเหลือเพียงเนินซากอิฐปรักหักพังแต่มีการสร้างศาลาครอบไว้
วัดเกาะอภินิหาร เดิมชื่อ วัดกุหร่า ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเทพา อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ปัจจุบันมีสภาพเป็นวัดร้างที่ปรากฏร่องรอยหลักฐานเป็นซากอุโบสถเก่า การศึกษารูปแบบศิลปกรรมของซากโบราณสถานที่หลงเหลืออยู่ สันนิษฐานว่า วัดกุหร่า น่าจะเป็นวัดโบราณที่สร้างขึ้นตั้งแต่ตอนปลายกรุงศรีอยุธยาและเป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งในอดีต เนื่องวัดกุหร่าตั้งอยู่ในตำแหน่งที่อยู่ใกล้เส้นทางโบราณในการสัญจรระหว่างพื้นที่ประเทศไทยและรัฐไทรบุรีของประเทศมาเลเซีย
อุโบสถของวัดกุหร่าหรือวัดเกาะอภินิหาร ทะเบียนโบราณวัตถุสถานทั่วราชอาณาจักรบันทึกสิ่งสำคัญภายในวัดกุหร่าไว้ว่า มีซากผนังโบสถ์ หลักฐานทางโบราณคดีและรูปแบบศิลปกรรมภายในวัดกุหร่าที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบันประกอบด้วยซากอุโบสถซึ่งมีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีขนาดกว้างประมาณ 4.45 เมตร ยาวประมาณ10.50เมตร ก่อด้วยอิฐถือปูน ส่วนฐานอุโบสถมีลักษณะโค้งงอน ปรากฏร่องรอยเสมาอยู่โดยรอบอุโบสถ โครงสร้างส่วนบนของอุโบสถชำรุดเสียหายทั้งหมด บรเวณผิวดินรอบๆอุโบสถพบชิ้นส่วนกระเบื้องดินเผามุงหลังคากระจัดกระจายอยู่โดยทั่วไป ภายในอุโบสถมีร่องรอยการขุดหาโบราณวัตถุ จากรูปแบบศิลปกรรมของอุโบสถ รูปแบบวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างและร่องรอยกระเบื้องมุงหลังคา สันนิษฐานว่าอุโบสถวัดกุหร่าน่าจะเป็นอุโบสถที่มีส่วนฐานและผนังอุโบสถก่อด้วยอิฐถือปูน โครงสร้างส่วนหลังคาน่าจะเป็นโครงสร้างไม้ มุงกระเบื้องดินเผา มีอายุราวพุทธศตวรรษที่23ถึง24
วัดกุหร่า ได้ถูกเรียกว่า วัดเกาะวิหาร จนเพี้ยนมาเป็น วัดเกาะอภินิหาร เนื่องจากชาวบ้านเชื่อถือในความศักดิ์สิทธิ์ของเขื่อน(สถูป)หลวงปู่ทวดลิ้นดำ วาจาสิทธิ์ อดีตเจ้าอาวาส ในด้านการบนบานการค้าการขายสำเร็จ หรือ วัวหายควายขาด ก็ยังสำเร็จ ด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ของหลวงปู่ทวดลิ้นดำ
วัดเกาะอภินิหาร ได้รับความศรัทธาประชาชนมากมาย จนกระทั่ง พ่อท่านพุ่ม อินทวังโสจาก เขาวัง อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ซึ่งท่านเชี่ยวชาญทางวิปัสสนากรรมฐาน พ่อท่านเส้ง พ่อท่านลี หลวงปู่นนท์ สิริธโร หลวงพ่อเวช กิตติโสภโณ พระสมนึก หนูนิ่ม หลวงเปรม อยู่บ้านท่าไทร(เคยอยู่กับพ่อท่านพุ่ม) ท่านเหล่านี้ เคยมาอยู่จำพรรษาที่วัดเกาะอภินิหาร เพื่อปฏิบัติธรรมและฉลองศรัทธาชาวบ้าน ดังปรากฏว่า มีการจัดงานบุญ ณ วัดเกาะอภินิหารในปี พศ.2519 อนึ่ง วัดเกาะอภินิหารนอกจากจะปรากฏซากอุโบสถเก่ายังพบเขื่อน(สถูป)หลวงปู่ทวดลิ้นดำ วาจาสิทธิ์ เขื่อน(สถูป)สมภารโต๊ะอิหม่าม และเขื่อน(สถูป)สมภารเณรน้อย ซึ่งมีผู้คนเคารพเชื่อถืออย่างมาก
วัดเกาะอภินิหาร แห่งนี้มีคนรู้จัก และเลื่อมใสศรัทธามานานหลายร้อยปีแล้ว ผู้คนใกล้ชิดมักมาบนบานสารกล่าวเสมอมาไม่ว่าเดือดร้อนในเรื่องอันใดก็จะได้รับความช่วยเหลือคลายความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านได้เสมอมา และเมื่อสิบปีที่ผ่านมานี้ก็มีคนต่างถิ่นได้ยินกิติศัพท์ของความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปูทวดลิ้นทองดำก็มาสักการบูชาเรื่อยมา จนถึงปี พ.ศ. 2547 ได้มีนายอารีย์ หาญภิรมย์ และนายองอาจ ณ พัทลุง ซึ่งเป็นชาวจังหวัดยะลา ได้มากราบไหว้ขอลาภผลจากหลวงปู่ทวดลิ้นดำ ที่วัดเกาะอภินิหารแห่งนี้ ก็ได้ตามที่คาดหวังไว้ทุกประการ จึงเกิดการเลื่อมใสศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวดลิ้นดำ วาจาสิทธิ์เป็นอย่างยิ่ง จึงได้มาปรึกษาหารือกับ นายณรงค์ พรหมขาวทอง (เป็นผู้มีความรู้ทางไสยศาสตร์และเป็นคนพื้นเพใกล้กับวัดเกาะอภินิหาร) ว่าต้องการจะสร้างรูปจำลองของหลวงปู่ทวดลิ้นดำ วาจาสิทธิ์ ไว้สำหรับญาติโยมและผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาในองค์หลวงปู่ทวดลิ้นดำไว้กราบไหว้บูชา หลังจากนั้น นายอารีย์ และนายองอาจพร้อมกับพรรคพวกที่เดินทางมาจากจังหวัดยะลาได้รวบรวมเงินจัดสร้างในปี พ.ศ. 2547 แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ และต่อมาในปี 2550 ก็มีผู้มีจิตใจเลื่อมใสศรัทธาสมทบทุนอีก เช่น นางกนกพร เหล่าอนิชภัทร นายวรวุฒิ วชิรจารุอุช นายสิทธิบดี มะลิชู ซึ่งเป็นนายช่างในการปั้นแบบของหลวงปู่ทวดลิ้นดำ ส่วนรูปจำลองของหลวงปู่ทวดลิ้นดำ วาจาสิทธิ์ ได้แบบมาจากภาพนิมิตฝันของ นายณรงค์ พรหมขาวทอง หรืออาจารย์ณรงค์ซึ่งเชี่ยวชาญทางไสยศาสตร์พื้นบ้าน
ประวัติความอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวดลิ้นดำ มีผู้เฒ่าผู้แก่เล่าสู่กันฟังต่อๆกันมาตั้งแต่สมัยนั้น จนถึงปัจจุบันว่าครั้งหนึ่ง มีโต๊ะอิหม่ามชื่อนายหะมะ(ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งเป็นอิสลามมีวิชาอาคมเก่งกล้านักได้บังเอิญเดินเข้ามาภายในวัดเกาะอภินิหารแห่งนี้และเคยได้ยินผู้กล่าวขานของความศักสิทธ์ของ หลวงปู่ทวดลิ้นดำ วาจาสิทธิ์(เทพดำ) จึงได้เข้าไปพบและพูดคุยกันตามประสาคนมีวิชาอาคม โต๊ะอิหม่ามหะมะ จึงคิดอยากทดสอบวิชาอาคมกับหลวงปู่ทวดลิ้นดำ จึงได้กล่าวท้าขึ้นว่า ถ้าหากว่าหลวงปู่ทวดลิ้นดำ มีความอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์จริงตามที่ชาวบ้านร่ำลือกัน ไม่สามารถเอาชนะวิชาอาคมของเราได้แล้วก็ต้องสึกจากพระ มาเป็นอิสลามเหมือนกับเรา แต่ถ้าหากว่าเราไม่สามารถเอาชนะท่านได้เราก็จะขอบวชเป็นพระและยอมเป็นลูกศิษย์ของท่านไปตลอดไป หลวงปู่ทวดลิ้นดำก็ตกลงรับคำท้าไป การประลองวิชาอาคมจึงได้มีขึ้น อันดับแรก โต๊ะอิหม่าม หะมะได้เอาตายอน(เหล็กที่ใช้ตำหมาก) มาผลัดกันแทงคนละหนึ่งครั้ง ผลปรากฏว่าไม่มีคนใดได้รับอันตรายและมีบาดแผลเลย การประลองครั้งที่ 2 โต๊ะอิหม่าม หะมะได้กลับไปเอาปืนคาบศิลา(ปืนแก๊ป) ยิงไปที่ลูกมะพร้าวที่อยู่ภายในวัด จนลูกมะพร้าวทะลุเป็นรูกลม และมีน้ำมะพร้าวไหลออกมา โต๊ะอิหม่าม หะมะจึงหันมาถามหลวงปู่ทวดลิ้นดำว่าจะทำอย่างไรให้น้ำมะพร้าวหยุดไหล หลวงปู่ทวดลิ้นดำจึงหยิบคันธนูคู่ใจ(ลูกธนูปั้นจากดินเหนียวเป็นก้อนกลมๆ) ยิงขึ้นไปอุดรอยรั่วของลูกมะพร้าว ทำให้น้ำมะพร้าวหยุดไหลทันทีอันเป็นว่าเสมอกันอีกครั้ง แล้วหลวงปู่ทวดลิ้นดำได้กล่าวขึ้นว่า ในน้ำมีปลาในนามีข้าวคือความจริง โต๊ะอิหม่าม หะมะเถียงว่าไม่เป็นความจริง โต๊ะอิหม่าม หะมะจึงให้เด็กวัดขึ้นเก็บมะพร้าวมาหนึ่งลูก และมาวางหน้าหลวงปู่ทวดลิ้นดำ และกล่าวขึ้นว่าถ้าหากในน้ำมีปลาจริงแสดงว่าน้ำในลูกมะพร้าวก็ต้องมีปลาอยู่ด้วย แต่ถ้าหากไม่มีปลาท่านก็ต้องแพ้เราและยอมทำตามข้อตกลงที่ให้สัจจะกันไว้ (ลักษณะคล้ายๆปลากัด) ออกมาจากลูกมะพร้าว 1 ตัวว่ายอยู่ในอ่างน้ำ โต๊ะอิหม่าม หะมะ เห็นดังนั้นก็ตกตะลึง แล้วพูดขึ้นว่า…ท่านศักดิ์สิทธิ์จริงๆ เรายอมแพ้ท่านละ และยอมทำตามสัจจะที่ให้ไว้กับท่าน ต่อมาโต๊ะอิหม่าม หะมะ ได้ขออนุญาตหลวงปู่ทวดลิ้นดำกลับบ้านเพื่อไปบอกลูกเมียถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นให้ได้รับรู้และหลังจากนั้น โต๊ะอิหม่าม หะมะก็ได้กลับมาบวชเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ทวดลิ้นดำ วาจาสิทธิ์ จนมรณภาพที่วัดเกาะอภินิหารแห่งนี้ และมีหลักฐานที่ปรากฏคือ สถูปที่เก็บอัฐิของโต๊ะอิหม่าม หะมะ เรียกเขื่อน(สถูป)สมภารโต๊ะอิหม่าม ตราบทุกวันนี้
และมีอยู่อีกหนึ่งเรื่องเป็นตำนานเล่าต่อกันมาว่าเมื่อมีการจัดงานในวัด ผู้คนก็จะมาช่วยกัน เช่น หุงข้าว ทำกับข้าว หรือทำของหวานเพื่อที่จะเลี้ยงพระสงฆ์ และชาวบ้านที่เดินมาจากแดนไกลเพราะสมัยก่อนต้องเดินทางด้วยเท้า หรือคนที่พอมีอันจะกินก็จะขี่ช้างมาค้างคืนที่วัดด้วยเพื่อตอนรุ่งเช้าจะได้ทำบุญร่วมกันเมื่อคนมากก็ต้องทำอาหารมาก จึงต้องช่วยกันทำอาหารแต่เหล็กขูดมะพร้าว (กระต่ายขูดมะพร้าว) มีไม่เพียงพอ เพราะที่วัดมีอยู่แค่สองตัวเท่านั้น ทำให้การทำอาหารล่าช้า หลวงปู่ทวดลิ้นดำจึงขึ้นไปดูในครัวเห็นเช่นนั้นจึงถามขึ้นว่า “โยมมีเหล็กขูดสองตัวนี้ดอกหรือ แล้วที่บ้านโยมมีเหล็กขูดอีกรึเปล่า” โยมก็บอกว่า “มีแต่ไม่กล้าที่จะกลับไปเอาเพราะเส้นทางวัดกับบ้านไกลกันมาก และมันก็ใกล้ค่ำแล้วด้วย” เพราะสมัยก่อนเสือโคร่งมันมีมาก หลวงปู่ทวดลิ้นดำจึงพูดขึ้นว่า”เราจัดให้แล้ว “หลวงปู่ทวดลิ้นดำลงมาจากโรงครัว แล้วกลับมาที่กุฏิแล้วนั่งเจริญภาวนา
และไม่นานนักก็มีเหล็กขูดของชาวบ้านมากองอยู่ที่โรงครัวจำนวนมากชาวบ้านตกใจเห็นดังนั้นก็วิ่งไปถามหลวงปู่ทวดลิ้นดำว่า “เหล็กขูดจำนวนมากที่อยู่ในโรงครัวใครเป็นผู้นำมาให้หรือ” หลวงปู่ทวดลิ้นดำจึงตอบขึ้นว่า “เราเรียกมาเองแหละโยมเอ๋ย”
และอีกไม่นานนักก็มีงานขึ้นมาอีก ชาวบ้านอยากลองดีกับหลวงปู่ทวดลิ้นดำ พอถึงงานวัดก็เอาเชือกมาผูกกับเหล็กขูดเอาไว้กับเสาครัวในบ้านแล้วจึงชวนครอบครัวของตนไปช่วยงานในวัด เมื่อได้พบปะกับเพื่อนๆที่มากันแล้ว เขาก็พูดขึ้นว่า “วันนี้หมดสิทธิ์ที่จะเอาเหล็กขูดเพราะเราผูกไว้กับเสาครัวในบ้านเสียแล้ว” หลวงปู่ทวดลิ้นดำได้ยินเช่นนั้นจึงนึกในใจว่าโยมจะลองดีกับเราหรือ ดังนั้นหลวงปู่ทวดลิ้นดำก็กลับมาที่กุฏิ และนั่งเจริญภาวนาในไม่ช้าเหล็กขูดที่ผูกไว้กับเสาบ้านก็หลุดออกมาจากเชือกแล้วมันก็ปรากฏอยู่ที่วัด เจ้าของเหล็กขูดตกใจว่าเหล็กขูดของเรามันหลุดออกมาจากเชือกได้ยังไง และแล้วเขาก็เอ่ยออกมาว่า “หลวงปู่ทวดลิ้นดำวาจาสิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ” และชาวบ้านจึงยอมรับในความอภินิหารของหลวงปู่ทวดลิ้นดำ วัดเกาะอภินิหาร
หลวงปู่ทวดลิ้นดำ สำแดงปาฏิหาริย์!!! ชาวสิงคโปร์ถูกรางวัลที่ 1 เลข 2484 1500000 บาท (วันที่ 05/11/2016) หลวงปู่ทวดลิ้นดำประทานลาภได้สัมฤทธิ์ผลอีกครั้ง 1800 ริงกิต เท่ากับ 149999 บาท ประมาณ 150000 บาท ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ถูกรางวัลที่ 1 สองครั้ง อีกหนึ่งครั้งถูกรางวัลที่ 4 ผู้ศรัทธาท่านนี้มาจากสิงคโปร์ ครั้งที่ 1 วันที่ 25 เดือน 10 ปี 2016 เขาได้ไปกราบไหว้อาจารย์ณรงค์ พรหมขาวทอง ซึ่งมีจิตสัมผัสกับหลวงปู่ทวดลิ้นดำ ณ วัดเกาะอภินิหาร
วันนั้นเขาได้พูดต่อหน้าหลวงปู่ทวดลิ้นดำว่า หากครั้งนี้เขาถูกรางวัลอีก เขาจะนำเงินส่วนหนึ่งบริจาคเพื่อสร้างห้องน้ำ ปรากฎว่าเมื่อกลับถึงบ้านหกโมงครึ่งเขาถูกรางวัลที่ 1 1800 ริงกิตจริงๆ ครั้งนี้ก็ได้แสดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวดลิ้นดำอีกครั้ง หลวงปู่ทวดลิ้นดำช่วยให้สมดังปรารถนาตามที่ขอ ครั้งนี้ทำให้เขาเชื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวดลิ้นดำอย่างสุดใจ
อีกท่านหนึ่ง..เป็นหญิงสาว เล่าว่า ทุกครั้งที่ฉันได้ไปกราบสักการะหลวงปู่ทวดลิ้นดำ ก็จะขอพรอธิษฐานแบบนี้ ถ้าเกิดหลวงปู่ทวดลิ้นดำให้ข้าวพวกเรากินวันนี้ หรือวันพรุ่งนี้ อย่างเพียงแต่สงสารฉันและครอบครัว แต่ขอให้ให้กับผู้อื่นด้วย เพื่อทุกคนจะได้ร่วมสุขด้วยกัน สำหรับคนที่มีปัญหาทางด้านการเงิน ขอให้พวกเขาได้รับมากกว่า สำหรับคนที่มีพร้อมอยู่แล้วได้รับน้อยกว่าไม่เป็นไร นอกจากด้านการเงินแล้วหากมีปัญหาทางด้านอื่นๆที่ไม่ราบรื่นก็ขอให้ช่วยเหลือ เช่น ด้านสุขภาพ ความปลอดภัย
ปรากฏว่าท่านนี้ ถูกรางวัลครั้งที่ 4 จากวันที่ 9 เดือน 10 จนถึงวันที่ 30 เพียงในสามอาทิตย์ ป้ายทะเบียนรถยนต์ และรถมอเตอร์ไซด์ถูกรวมกันทั้งหมด 4 ครั้ง
ปัจจุบันนี้ได้มีการจัดสร้างรูปเหมือนหลวงปู่ทวดลิ้นดำจำลองอยู่ที่บ้านพักของอาจารย์ณรงค์ พรหมขาวทอง และประดิษฐานที่พักสงฆ์บ้านระไมล์ อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 23 กรกฏาคม 2550 ตรงกับเดือน8 ขึ้น 9 ค่ำ วันจันทร์ เรื่องทั้งหมดที่เล่าต่อกันมานั้นเป็นเรื่องจริงที่ ได้รับทราบจาก หลวงปู่นนท์ สิริธโร อายุ79ปี วัดสะบ้าย้อย อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา หลวงพ่อเวช กิตติโสภโณ อายุ73ปี วัดมะปรางมัน อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดสงขลา ร.ต.ต. เจษฎาวุธ เพ็งลาย อาจารย์ณรงค์ พรหมขาวทอง ได้อนุเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับในเรื่องนี้ หากผู้ใดมีความเดือดร้อนใจอยากจะขอความช่วยเหลือในด้านใดๆ ก็ตามแต่ ขอเชิญมาสักการะหลวงปู่ทวดลิ้นดำที่วัดเกาะอภินิหาร ตำบลเปียน อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา , บ้านอาจารย์ณรงค์ พรหมขาวทอง หมู่บ้านนากัน ตำบลบ้านโหนด อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา หรือที่พักสงฆ์บ้านระไมล์ หมู่ที่ 4 ตำบลเปียน อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ได้ทุกเมื่อ…
พระผงว่านหลวงปู่ทวดลิ้นดำ รุ่นแรกเบิกฟ้าใหม่ บล๊อคประสบการณ์ เจ้าหน้าที่รัฐในพิ้นที่มักบูชามาแควนไว้ที่คอ สร้างปี 2551 โดยอาจารย์ณรงค์ พรหมขาวทอง ใช้ 108 ชนิดสร้าง
เขื่อน(สถูป)บรรจุอัฐิหลวงปู่ทวดลิ้น ดำ อัฐิของท่านอยู่ภายในนี้
เขื่อน(สถูปบรรจุอัฐิ)หลวงปู่ทวดลิ้นดำ วัดเกาะอภินิหาร ..วัดร้างกลางดง..
ซากอุโบสถวัดเกาะอภินิหาร
ขอขอบพระคุณ
หลวงปู่นนท์ สิริธโร อายุ79ปี วัดสะบ้าย้อย อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา
หลวงพ่อเวช กิตติโสภโณ วัดมะปรางมัน อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ท่านเคยจำพรรษาที่วัดเกาะอภินิหารในปี2519 และมีความเคารพเลื่อมใส และสัมผัสถึงพลังญาณหลวงปู่ลิ้นดำได้
ร.ต.ต. เจษฎาวุธ เพ็งลาย
อาจารย์ณรงค์ พรหมขาวทอง บ้านเลขที่ 5/15 ม.3 หมูบ้าน นากัน ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา โทร.084 7478864
และ คุณไพฑูรย์ ด้วงดำ ตลอดจน สท.โอม เพทาย ด้วงดำ ที่อนุเคราะห์ข้อมูลทุกๆด้านครับ
แหล่งที่มา : https://puttakom.com